สืบศิลป์ : กีรติ
ช้าง สัตว์สี่เท้าที่มีขนาดใหญ่ มีความผูกพันกับคนเรามาแต่ครั้งโบราณ ทั้งยังมีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนามาแต่อินเดียโบราณอีกด้วย
หลักฐานซึ่งยืนยันความสำคัญดังกล่าวปรากฏครั้งแรกในราวพุทธศตวรรษที่ 3 คือ ภาพสลักหินประดับพระสถูปสาญจี เป็นพุทธประวัติตอนหนึ่งเป็นรูปที่แปลความได้ว่าคือพระนางสิริมหามายาทรงสุบินถึงช้าง ซึ่งมีความหมายว่าจะผู้มีบุญญาธิการจุติมากำเนิดในครรภ์ของพระองค์
ความหมายในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ สืบเนื่องมาจากคนในสมัยก่อนยังไม่มีศาสนา แต่มีการนับถือธรรมชาติ อาทิ ไฟ น้ำ ต้นไม้ งู โดยพบว่า น้ำมีสำคัญกับชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาพของช้างพ่นน้ำจึงมีความหมาย เป็นมงคล ดังนั้นซุ้มประตูพุทธสถานในอินเดียมักจะปรากฏรูปช้างประดับร่วมอยู่ด้วยเสมอ และสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ดังกล่าวยังคงได้รับความนิยมจวบจนปัจจุบัน
สำหรับประเทศไทย ช้างเข้ามามีบทบาทในงานศิลปกรรมไทยมาตั้งแต่ศิลปะทวารวดี (ยุคเริ่มแรกของวัฒนธรรมพุทธศาสนา) และมีอิทธิพลอย่างยิ่งในสมัยสุโขทัย เช่น เจดีย์วัดช้างล้อม อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย โดยมีการประดิษฐานช้างล้อมรอบส่วนฐานของเจดีย์
นอกจากนี้ยังพบว่าช้างมีบทบาทสำคัญในศิลปะล้านนาในช่วงพุทธศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นยุคทองของอาณาจักรล้านนา พระพุทธศาสนาเจริญอย่างมากในช่วงเวลานั้นโดยเฉพาะคติความเชื่อในเรื่องของช้างค้ำจุนพระพุทธศาสนาของสุโขทัย ได้ส่งผลให้รูปแบบศิลปะของล้านนาเน้นการสร้างฐานพระพุทธรูปประดับด้วยช้างอีกด้วย
ดังภาพตัวอย่าง เป็นฐานพระพุทธรูปทรงช้างสามเชือก ซึ่งสลักจากหินทราย เป็นศิลปะล้านนาสกุลช่างพะเยา ปัจจุบันได้ทำการเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เป็นหนึ่งตัวอย่างที่มีความงดงาม และมีความเด่นชัดที่แสดงถึงการให้ความสำคัญกับช้างที่นำมาประดับส่วนของฐานเช่นกัน
ช้าง จึงเป็นสัตว์สัญลักษณ์ตามคติที่มีความหมายในเรื่องของความเป็นสิริมงคลและเครื่องหมายแห่งการค้ำจุนพระพุทธศาสนาตามความเชื่อของพระพุทธศาสนาลังกาวงศ์ โดยเชื่อว่า ช้างเป็นสัตว์ที่ค้ำจุนจักรวาลและเชิดชูพระพุทธศาสนา ซึ่งแนวความคิดและความเชื่อดังกล่าวได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในดินแดนไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว ●
ขอให้มี ‘ความสุข’ กับทุกย่างก้าวของเหล่าอักษรรักสีชมพูขอรับ
‘ดิน’
มาให้กำลังใจจ้า
ก้าวแรก ที่น่าจดจำ
เจดีย์วัดช้างล้อม อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
ที่โผล่มาเพียงครึ่งใช่เปล่าคะ พอไปดูตามสถานที่จริง คติที่แฝงนี้แยอะมากเลยเนาะ
ส่วนการดูเนื้อวัตถุนั้น พี่ไม่แน่ใจว่า เราคงต้องวิเคราะห์จากแต่ละพื้นที่ด้วยหรือเปล่านะคะ
ทุกความเชื่อมีที่มา อ้อยเขียนเล่าได้ ลื่นสนุกเชียว ขอบคุณนะคะ
I like the helpful information you supply in your articles.
I will bookmark your blog and test again right here regularly.
I’m slightly certain I’ll be informed many new stuff right right here!
Best of luck for the next!