ผมลืมตาตื่นขึ้นในวันปีใหม่
น่าจะใกล้ ๆ เที่ยง !
ขยับตัวไม่ไหว…คิดทบทวน…
ความทรงจำไม่ปะติดปะต่อ ซ้ำยังมีอาการปวดหัวตุบ ๆ
ภาพเมื่อคืนกะพริบเหมือนฟิล์มขาวดำโลว์สปีด
ผมดื่มกับเพื่อน ๆ…เรานับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ด้วยกัน..ภาพหาย…จอใหญ่…บรรยากาศเคานท์ดาวน์ทั่วโลก…ภาพหาย…เสียงเพลง…ปวดหัว !
ผมลุกเดินโซเซออกมาสูดอากาศที่ระเบียง
ฟ้าสว่างจ้า แสบตา
สวัสดี ‘วันปีใหม่ของผม’ ผมเสียใจ ผมขอโทษ !
ผมขอโทษวันปีใหม่มาหลายครั้ง เป็นเหมือนคนทำความผิดที่สำนึก แต่ก็ยังทำซ้ำ ครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมไม่อยากเริ่มปีใหม่ในสภาพอย่างนี้
อยากเริ่มวันแรกของปีด้วยสมองปลอดโปร่ง สดใส
ยิ้มรับลำแสงอรุณรุ่งของเช้าวันปีใหม่ ราวรับพรจากอาทิตย์อุทัย
เพื่อดำเนินชีวิตปีใหม่อย่างเต็มกำลัง เต็มคุณค่า รู้ทิศทาง
แต่ไม่เคยสำเร็จ พอถึงวันสิ้นปี ไม่เคยสามารถหักห้ามบรรยากาศคึกคัก ฮาเฮ อยากร่วมเฉลิมฉลอง ‘ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่’ กับมวลมนุษยชาติ อาจเพราะความเหงา ความโดดเดี่ยวภายในคอยเร้า อย่าได้แปลกแยกจากสังคม ดูสิ…พวกเขากำลังรื่นเริงกัน จะคิดอะไรมากมายวันปีใหม่ก็คืออีกวันเหมือนทุก ๆ วัน นี่เป็นเวลาปาร์ตี้ !
แล้วผมก็โซเซออกมาขอโทษ อีกครั้ง
แต่จะต้องไม่เกิดขึ้นกับเช้าวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๐
ค่ำวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๙ ผมจะจุดเทียนไข นั่งสงบอยู่ในความเงียบงัน ส่งท้ายปีด้วยจิตสำนึกทบทวน ยอมรับการกระทำผิดพลาด ยิ้มรับการกระทำที่สำเร็จ วางเป้าหมายสำหรับหนึ่งปีข้างหน้า
จากนั้น เข้านอนด้วยดวงจิตสงบ เพื่อตื่นรับอรุณรุ่งพร้อมสมองโปร่งใส นำมาลัยมะลิไปกราบขอพรแม่
ผมมีปีใหม่ร่วมกับมวลมนุษยชาติมาหลายปี (แฮ้งก์ทุกที)
ขอมีปีใหม่กับตัวเองสักที (จะเป็นไร)
โชคดีปีใหม่ครับทุกท่าน
บอกอแบกบาล
สวัสดีปีใหม่ขอรับ
โบยโบก..บินโบย
Hi everyone, it’s my first pay a quick visit at this
site, and paragraph is really fruitful designed for me, keep up posting these types of articles.