[ก้าวฯกวี]
“กระทง”
– ๑ – |
ในคราวนั้นพ่อฉันฟันต้นกล้วย |
ส่วนหนึ่งด้วยจะแกงหยวกใส่ปลาย่าง |
อีกบางส่วนหั่นแว่นเป็นวงวาง |
ให้แม่พลางเย็บกระทงไว้ลงลอย |
. |
“หนูจะเอากระทงอันเล็กเล็ก” |
เพราะสองมือของเด็กนั้นยังน้อย |
เด็ดดอกไม้หน้าบ้านมานั่งคอย |
กระทงเสร็จแล้วค่อยประดับประดา |
. |
“หนูจะใส่ดาวเรืองไว้ตรงนี้ |
แซมแพงพวยสวยดีดูเข้าท่า” |
ธูปเทียนปักตรงกลางอย่างเคยมา |
และตั้งตารอไปงาน ลอยกระทง |
. |
เสื้อแขนยาวหมวกไหมพรมกันลมหนาว |
โคมพันแสงแข่งดาวลมพัดส่ง |
สูงขึ้นสุดฟ้าฟากแล้วดับลง |
หลายคนคงแหงนหน้า ดวงตาตะลึง |
. |
แม่จูงมือถึงตลิ่งน้ำปริ่มท่า |
อธิฏฐานวาจาขณะหนึ่ง |
หลับตาเห็น ชีวิตงามในคำนึง |
จากนั้นจึงลงลอยค่อยเคลื่อนไป |
. |
– ๒ – |
เพียงวัยวันพลันผ่านกาลหมุนเปลี่ยน |
บัดนี้มีกระทงเทียนรูปแบบใหม่ |
จากกรุ่นหอมอบอวลของดอกไม้ |
กลายเป็นใช้ริบบิ้นแซมบนแท่นโฟม |
. |
กลีบกระทงจากใบตองเคยของแท้ |
บัดนี้แค่กระดาษพับประดับโฉม |
จุดเทียนวอมลอยล่องก่องแสงโคม |
ไปถั่งโถมล่มสลายในคงคา |
. |
ระลอกคลื่นคืนกระทงสู่ตลิ่ง |
อธิฏฐานเป็นจริงหรือเปล่าค่า |
มวลมนุษย์ต่างวาระและเวลา |
จิตแท้แห่งปัญญากลับเลือนลับ! |
. |
คืนนี้เหน็บหัวใจไหมพระแม่ |
มาสู่ยุคผันแปรดังตกอับ |
อธิฏฐานผู้ใดเกินจะนับ |
เพื่อบรรเทาความย่อยยับแห่งชีวิต |
. |
และรายทางกระทงเทียมยังเรียงราย |
ต่างรอคนซื้อขาย งานง่ายประดิษฐ์ |
นิยามยุคสะดวกนิยมคือนิมิต |
ล้านดวงจิตหลงทิศเฉกกระทง! |
กวิสรา
http://kaveesara.bloggang.com